Infinite Growth FX

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อยากสำเร็จต้องประกาศเป้าหมายให้โลกรู้

อยากสำเร็จต้องประกาศเป้าหมายให้โลกรู้

แน่นอนว่าคงได้ยินคำนนี้กันคำอยากจะอ้วกออกมาแล้วใช่ไหมกับคำว่า"ประสบความสำเร็จ" และก็ฟังมาไม่รู้เท่าไหรต่อเท่าไหรกับการสาธยายต่างๆนาๆแต่ชีวิต"กู"ก็เหมือนเดิมซึ่งผมคงไม่ต้องอธิบายต่อแล้วกับคำๆนี้แต่ผมขอยกกระบวนการหนึ่งที่จะประสบความสำเร็จเร็จมาวิเคราะห์กันแบบเป็นเหตุเป็นผลสักหน่อย

กระบวนการหนึ่งของการประสบความสำเร็จที่เราคงได้ยินกันบ่อยๆสำหรับใครที่ได้ฟังนักสร้างแรงบัลดารใจหลายท่านพูดเรื่องของการประกาศเป้าหมายให้โลกรู้...เอ่อ...คือต้องระดับโลกเลยเหรอ(กูต้องลงหนังสือพิมพ์เลยไหมเนี่ย 55)ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกเรามาตีความกันสักหน่อยกับคำว่า "ประกาศ" แล้วทำไมต้องประกาศ

การประกาศคือการสื่อสารชนิดหนึ่งเพื่อให้ผู้รับข้อความรับรู้ถึงข้อความที่ผู้ประกาศต้องการสื่อออกมาซึ่งแน่นอนว่าทางด้านจิตวิทยาแล้วมนุษย์เราได้สรา้งกำแพงขึ้นมาในจิตใจที่จะสรา้งปฏิสัมพันธ์กับความรอบข้างทำให้กระบวนกาะนี้มักจะเป็นอุปสรรคในการที่จะก้าวต่อไปของผู้ที่อยากประสบความสำเร็จซึ่งมันเป็นกระบวนการหนึ่งที่สำคัญเลยทีเดียวในการที่จะก้าวสู่เป้าหมาย

กระบวนการนี้สำคัญอย่างไรมันไม่สำคัญว่าคุณจะประกาศอะไรออกไปแต่มันสำคัญว่าสิ่งคุณจะประกาศออกไปจะเป็นที่น่าจดจำฉะนั้นหัวใจของมันคือการสร้างความน่าจดจำให้กับรู้รับสารแน่นอนว่าการประกาศออกไปมันอาจไม่สามารถสร้างการจดจำได้จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอเช่นกันแล้วแต่ปัญหาคือจะทำยังไงใม่ให้เป็นที่น่ารำคาญ(โอ๊ยทำไมมันวุ่นวายจังฟะเนี่ยจะประสบความสำเร็จทั้งที..เอาเถอะสุดท้ายรับรองได้ว่ามันหอมหวานแน่นอน)มันไม่ยากหรอกครับอย่างที่บอกไปว่าหัวใจมันคือการสร้างความน่าจดจำและขอเสริมอีกหน่อยว่าต้องในด้านบวกนะไม่ใช่สร้างความน่ารำคาญกระบวนการหนึ่งที่จะทำให้คนจดจำเราได้คือการสร้างปฏิสัมพันธ์กับสังคมทำไมละคุณคงสงสัยมันไม่ยากอย่างที่หรอกครับมันคือการคุยกันนั่นหละครับแต่ในการด้านนะไม่ใช่ว่าจะคุยแต่ขายของหรือเรื่องงานเพราะมันจะดูน่ารำคาญเกินไป


ทำไมต้องเป็นที่น่าจะจำผมขอยกตัวอย่างธุรกิจหนึ่งแล้วกันเพราะหลายคนฟังดูแล้วจะกลัวกันเหลือเกินนั่นคือธุรกิจประกันในมุมผู้รับสารเมื่อเรารู้ว่าเรากำลังถูกขายประกันเราจะสร้างเกราะขึ้นมาในใจทันทีเพื่อปกป้องตัวเราด้วยประสบการณ์ที่ไม่ดีจากคนขายประกันที่เราเคยเจอ
สำหรับผู้ขายเองในบางครั้งคุณอาจไม่รู้ตัวว่าคุณกำลังสื่อสารออกมามากเกินไปจนเกิดคำว่าน่ารำคาญแต่หากคุณวางกรอบให้อยู่ในความพอดีจนไม่ทำให้เกิดการเสียสายสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผู้รับสารและที่สำคัญบางครั้งผู้รับสารนั้นอาจจะเป็นเพื่อคุณก็ได้ดังนั้นขอให้อยู่แค่ในกรอบไม่ประกาศมากเกินไปจนเกิดความรำคาญเพราะเท่านั้นก็เพียงพอแล้วผู้รับการได้รับรู้แล้วว่าคุณทำอะไรหลังจากนั้นเป็นการสร้างสำพันธ์อันดีต่อไปมีการปฎิสัมพันธ์กระเขาเสมอเพื่อให้ตัวคุณนั้นเปล่งประกายอยู่เสมอเพียงเท่านี้วันหนึ่งเมื่อผู้รับสารพร้อมเขาจะคิดถึงคุณเป็นคนแรก
ขอย้อนกลับไปสักหน่อยสำหรับผู้รับสารหรือคนที่ถูกขายประกันโดยส่วนใหญ่แล้วคุณเชื่อผมซิว้าส่วนใหญ่เขาก็อยากได้เพราะมนุษย์มีความอยากได้อยากมีอยู่ภายในจิตใต้สำนึกแต่ครั้งแรกที่คุณสื่อสารออกไปเขาอาจยังไม่พร้อมด้วยเหตุผลต่างๆนาๆแต่เชื่อผมซิเหตุผลเดียวที่เขาไม่กล้าพูดกับคุณคือ "กูยังไม่มีเงิน"

มิใช่เพียงแต่ในวงการประกันเท่านั้นทุกธุรกิจย่อมต้องมีกระบวนการพวกนี้ที่จะประสบความสำเร็จได้

"ทำตัวเองให้เปล่งประกายอยู่เสมอ"

ทฤษฎี VS ปฏฺิบัติ

ทฤษฎี  VS ปฏฺิบัติ

ทำโพสนี้เพื่อเตือนสติสำหรับเทรดใหม่ๆที่เข้ามาในตลาดเท่านั้นเนื่องจากมือใหม่หลายคนหรือผู้ที่กำลังศึกษาการเทรดใหม่ๆคงได้จะศึกษารูปแบบเทคนิคต่างๆที่ใช้ในการเทรดกันมามากแต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่กำลังมองข้ามไปอย่างสิ้นสิ้นเชิงซึ่งนั่นอาจเป็นความเสี่ยงหนึ่งที่อาจทำให้คุณเสียหายได้

ท่านอาจสงสัยว่าผมกำลังหมายถึงอะไร
ผมกำลังจะบอกว่าไม่มีใครที่รู้อนาคตหรือจะกำหนดการเคลื่อนที่ของราคาได้ดังภาพที่ผมยกมาประกอบจะเห็นได้ว่าราคากำลังก่อนตัวขึ้นทำเป็นรูปแบบต่างๆ "ตามจิตนาการ" นั่นหมายถึงว่าภาพดังกล่าวนี้มันเป็นจิตนาการของผมเท่านั้นทำไมผมจึงบอกว่าเป็นของผมนะเหรอเพราะผมเชื่อว่าหลายคนก็กำลังมองรูปแบบอื่นๆต่างๆนานากันไปตามจิตนาการของตนหรือจากทฤษฎีต่างๆที่ได้ศึกษามามิใช่แต่รูปแบบของกราฟที่นั้น Indicator ก็เช่นมันไม่สามารถบอกอนาคตหรือกำหนดการเคลื่นที่ของราคาได้แต่ในทางกลับกันแล้วราคาต่างหากที่เป็นตัวกำหนดไม่ว่าจะอินดี้หรือรูปแบบที่จะเกิดขึ้น H&S หรือ Triple top มันก็เป็นแค่จิตนาการของผมเท่านั้นซึ่ง "มันยังไม่เกิดและไม่รู้ว่าจะเกิดรูปแบบไหน" นั่นก็เพราะรูปแบบนั้นจะยังไม่ถูกเรียกตามรูปแบบจนกระทั่งมันเกิดไปแล้วตามเงื่อขของรูปแบบในโพสนี้ผมขออนุญาตข้ามไปแล้วกันครับสำหรับเงื่อนไขของรูปแบบแต่หากสนใจอยากศึกษารูปแบบก็ลองศึกษาดูแล้วกันนะครับ
https://infinite-growth-fx.blogspot.com/2012/07/blog-post_31.html



สรุปแล้วมันอันตรายยังไงคุณคงมีคำถามในใจอย่างที่ผมเกรินนั่นก็เพราะตอนนี้คุณกำลังยึดติดกับทฤษฎีมากเกินไปไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีการเกิดรูปแบบหรือการเล่นตามอินดี้ยกตัวอย่างง่ายๆว่าหลายครั้งที่คุณเข้าออเดอร์ตามอินดี้ตัวใดตัวหนึ่งขอยก MA มากล่าวแล้วกันครับมันมักจะส่งสัญญาณเข้ามาเมื่อราคาวิ่งไปแล้วเมื่อคุณเข้าตามก็มันจะสายเเกินไปหรือแม้แต่การเล่นกับรูปแบบของกราฟมันก็ไม่สามารถบอกสิ่งที่มันจะเกิดได้และเราจะรู้รูปแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อมันเกิดไปแล้ว

"ใช่ว่าทฤษฎีไม่ดีแต่ผมกำลังบอกว่าคุณจะต้องรู้จักการนำมาประยุกต์ใช้จริงในตลาดเท่านั้นมิใช่หลับหูหลับตาทำตามทฤษฎี"